image1
หน้าหลัก

ความหมายของการทำเด็กหลอดแก้ว

วิธีการทำเด็กหลอดแก้ว

ปัญหาที่เกิดจากการทำเด็กหลอดแก้ว

คลิปตัวอย่างการทำเด็กหลอดแก้ว

เกี่ยวกับผู้จัดทำ

วิธีการสร้างเด็กหลอดแก้ว ( IVF ) j

1.เตรียมความพร้อมของคู่สมรส โดยการ
- สรุปประวัติการรักษา
- ตรวจร่างกาย
- ตรวจระบบฮอร์โมนรังไข่
- ตรวจอัลตราซาวด์มดลูกและรังไข่
- ตรวจความแข็งแรงของเชื้ออสุจิ
2.วางแผนและทำความเข้าใจร่วมกันระหว่างแพทย์และคู่สมรส
3.ทำการกระตุ้นรังไข่เพื่อให้มีการตกไข่และทำให้ไข่สุกในรังไข่
4.ตรวจการเปลี่ยนแปลงของไข่ด้วยการอัลตราซาวนด์
5.แพทย์จะเลือกเก็บไข่ที่สมบูรณ์จากรังไข่โดยใช้เข็มดูดผ่านทางช่องคลอด โดยอาศัยเครื่องอัลตราซาวนด์ ซึ่งจำเป็นต้องให้ยาสลบเพื่อป้องกันความเจ็บปวด ใช้เวลาเก็บไข่ประมาณ 30 นาที หลังการเก็บไข่ ฝ่ายหญิงจะได้รับการรักษาด้วยฮอร์โมนชนิดสอดช่องคลอดหรือฉีดอย่างต่อเนื่อง เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการย้ายตัวอ่อนเข้าโพรงมดลูก
6.ไข่และอสุจิจะถูกผสมกันในห้องปฏิบัติการเลี้ยงและควบคุมคุณภาพตัวอ่อน จากนั้นติดตามดูไข่ที่ได้รับการปฏิสนธิใน 2 วันต่อมา
7.ในวันถัดมา ไข่ที่ได้รับการปฏิสนธิจะกลายเป็นตัวอ่อน พร้อมที่จะย้ายเข้าโพรงมดลูกซึ่งมักจะทำในวันที่ 3-5 หลังวันเก็บไข่ ซึ่งขั้นตอนของการย้ายตัวอ่อนเข้าโพรงมดลูกไม่จำเป็นต้องงดน้ำและอาหารก่อนมาโรงพยาบาล ไม่จำเป็นต้องดมยาสลบ และใช้เวลาประมาณ 30 นาที

s
ระยะของการย้ายตัวอ่อน
การย้ายตัวอ่อนสามารถทำได้ในช่วงระยะเวลาที่แตกต่างกัน ดังนี้
- การย้ายตัวอ่อนในระยะบลาสโตซิสต์ (blastocyst transfer) เป็นเทคโนโลยีใหม่ที่นำมาใช้ในการช่วยเหลือคู่สมรสที่มีบุตรยาก โดยการเพาะเลี้ยงตัวอ่อนไว้ภายนอกร่างกายจนตัวอ่อนเจริญเติบโตถึงระยะพร้อมฝังตัว (ใช้ระยะเวลา 5 วันหลังการผสม) ที่เรียกว่าบลาสโตซิสต์ (blastocyst) แล้วจึงค่อยใส่กลับเข้าไปในโพรงมดลูก เพื่อให้ตัวอ่อนฝังตัวและเกิดการตั้งครรภ์ ด้วยวิธีนี้จะช่วยให้ตัวอ่อนพร้อมฝังตัว เพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์
- การย้ายตัวอ่อนในระยะวันที่ 3 หลังการผสม (day 3 transfer) เป็นวิธีการเพาะเลี้ยงตัวอ่อนภายนอกร่างกายจนตัวอ่อนมีการแบ่งเซลล์เป็น 6-8 เซลล์ ซึ่งใช้เวลาประมาณ 3 วันหลังการผสม แล้วจึงใส่กลับเข้าไปในโพรงมดลูก
ระยะเวลาในการทำเด็กหลอดแก้ว
เด็กหลอดแก้วจะใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 4-6 สัปดาห์จึงจะเสร็จสมบูรณ์ โดยที่หลังจากมีการถ่ายฝากตัวอ่อนเข้าสู่โพรงมดลูกแล้วประมาณ 2 สัปดาห์ทางแพทย์จะนัดมาตรวจเลือดเพื่อทดสอบการตั้งครรภ์
โอกาสสำเร็จในการทำเด็กหลอดแก้ว
โอกาสสำเร็จจะขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง โดยทั่วไปจะมีโอกาสตั้งครรภ์ที่ประมาณ 15-35 % และเด็กมีโอกาสเกิดความพิการไม่แตกต่างจากการตั้งครรภ์โดยธรรมชาติ
การแท้งบุตรของการทำเด็กหลอดแก้ว
ถ้าสภาพร่างกายของฝ่ายผู้หญิงที่มาทำเด็กหลอดแก้วหากตั้งครรภ์ตามปกติแล้วมีโอกาสที่จะแท้งสูง การตั้งครรภ์ด้วยการทำเด็กหลอดแก้วนั้นจึงมีความเสี่ยงมากที่จะแท้งมากตามมาด้วย
ที่มา : http://www.thaibiotech.info/what-is-ivf.php
https://www.bumrungrad.com/th/fertility-ivf-center-bangkok-thailand/procedures/in-vitro-fertilization-ivf

 

กลับขึ้นด้านบน