กลไกลการมองเห็น

 

คลิ๊กที่รูป

การที่คนเรามองเห็นสีต่างๆได้ เป็นเพราะภายในจอตามีเซลล์รับรู้การเห็นสี (Photore ceptor) เราจะเห็นเป็นสีอะไรขึ้นอยู่กับว่ามีแสงสีอะไรมากระทบตาเรา คลื่นแสงที่คนเรามอง เห็นได้ เป็นคลื่นแสงที่มีความยาวคลื่นขนาด 400-700 นานอมิเตอร์ (Nanometre)
คลื่นแสงที่มีขนาดยาวกว่า 700 นานอมิเตอร์ ได้แก่ แสงอินฟราเรด (Infra red ray) คลื่นไมโครเวฟ (Microwave) คลื่นวิทยุ คลื่นโทรทัศน์ ส่วนคลื่นแสงที่สั้นกว่า 400 นานอมิ เตอร์ ได้แก่ แสงอัลตราไวโอเล็ต หรือแสงยูวี (Ultraviolet light หรือ UV light) รังสีเอกซ์ (X-ray,เอกซเรย์) และรังสีแกมมา (Gamma ray) ซึ่งตาคนเรามองไม่เห็น เนื่องจากจอตาคนเราไม่มีเซลล์รับรู้การเห็นสีนั้นๆ
คลื่นแสงขนาด 400-700 นานอมิเตอร์จะให้สีออกมาต่างๆกัน เช่น ขนาด 450 ให้สีน้ำเงิน และขนาด 700 ให้สีแดง บางคนอาจแจงคลื่นขนาด 400-700 ออกเป็น 7 สี ดังเช่น Sir Isaac Newton นักฟิสิกส์ชาวอังกฤษ เป็นคนแรกที่ใช้แก้วปริซึมแยกแสงแดดซึ่งเป็นแสงสีขาวออกมาเป็นสีรุ้ง ซึ่งท่านจินตนาการว่านับได้ 7 สี ทำให้ทุกวันนี้เราถือกันว่ารุ้งประกอบด้วยสี 7 สี ได้แก่ ม่วง คราม น้ำเงิน เขียว เหลือง แสด แดง เชื่อกันว่าคนโบราณถือว่าเลข 7 เป็นเลขศักดิ์ สิทธิ์ เช่น สัปดาห์ต้องมี 7 วัน ใบหน้าคนเรามีช่อง 7 ช่อง (หู ตา จมูก ปาก) นิวตันจึงพยายามนับสีรุ้งให้เป็น 7 สีดังกล่าว ในความเป็นจริงคลื่นแสงขนาด 400-700 นานอมิเตอร์ จำแนกให้ละเอียดได้ถึง 100 สีหรือมากกว่านั้น ดังเช่นอุปกรณ์ตรวจสภาพการเห็นสีชนิดหนึ่งที่เรียกว่า Farnsworth Munsell 100 hue test ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่ประกอบด้วยสีต่างๆ 100 สีไม่ซ้ำกัน
การเห็นสีนอกจากเกิดจากคลื่นแสงสีต่างๆมากระทบตาเราแล้ว ยังอยู่ที่เซลล์รับรู้การเห็นสีในจอตา โดยจอตาของคนเรามีเซลล์รับรู้การเห็นอยู่ 2 ชนิด คือ รูปกรวยและรูปแท่ง

เซลล์รูปแท่ง

เซลล์รูปกรวย

แหล่งอ้างอิง: https://www.pobpad.com/ตาบอดสี