การรักษาโรคอ้วน หลักๆคือการลดน้ำหนัก
- การเปลี่ยนแปลงชนิดอาหารที่กินและวิถีการดำรงชีวิต
- ทานยาลดน้ำหนัก(ภายใต้การดูแลของแพทย์)
- การผ่าตัดลดน้ำหนัก
สำหรับผู้ใหญ่ โดยเฉพาะ ผู้ที่ใช้วิธีลดอาหารและปรับเปลี่ยนวิถีการดำเนินชีวิต ควรจัดเป้าหมายที่เป็นไปได้เช่น:
- ตั้งเป้าที่จะลด 5-10% ของน้ำหนักตัวภายในหกเดือน
- ลดน้ำหนักช้าๆในอัตราไม่เกิน 1-2 ปอนด์ต่อสัปดาห์
- เมื่อคุณสามารถลดน้ำหนักลงได้ 10%แล้วให้พยายามรักษาระดับน้ำหนักนี้สักระยะก่อนที่จะลดน้ำหนักเพิ่มขึ้น
โรคอ้วนและการปรับเปลี่ยนวิถีการดำรงชีวิต
- การกินมากเกินไปเป็นสาเหตุสำคัญของโรคอ้วนและสาเหตุที่พบบ่อยที่สุด คือ :
- ความเมื่อยล้าและอ่อนเพลีย
- ความเบื่อหน่าย
- ความเครียดหรือความวิตกกังวล
- ภาวะมีความสุขหรือต้องการเฉลิมฉลอง
- การกินหรือเคี้ยวที่เร็วเกินไป
- การกินอย่างไม่ตั้งใจหรือไม่ให้ความสำคัญกับสิ่งที่กิน
- การกินเพื่อเอาใจคนอื่นหรือเพื่อกลุ่มทางสังคม
- ความพยายามที่จะควบคุมการกินอาหารที่เข้มงวดเกินไป
- การใช้เวลากินนานเกินไประหว่างมื้ออาหารหรือปล่อยให้หิวมากเกินไป
การปรับเปลี่ยนวิถีการดำรงชีวิตสามารถช่วยแก้ปัญหาข้างต้นและช่วยเรื่องลดน้ำหนักมากขึ้น เช่น
- นอนหลับให้เพียงพอ
- ระมัดระวังนิสัยและอารมณ์ที่ทำให้กินมากไป
- คำนึงถึงความหิวหรือความอิ่มของคุณทั้งก่อน ,ระหว่างและหลังกินอาหาร
- กินอาหารสุขภาพที่ให้ปริมาณแคลอรีที่เพียงพอและมีความหลากหลาย
- เลือกอาหารที่มีน้ำและเส้นใยสูงเช่นผลไม้ ผักธัญพืชและพืชตระกูลถั่ว
- เข้าร่วมการออกกำลังกายเป็นประจำ
- เข้าร่วมโครงการสนับสนุนการลดน้ำหนักทั้งแบบส่วนตัวและออนไลน์
ยารักษาโรคอ้วน
มียาเพียงไม่กี่ชนิดที่จ่ายตามใบสั่งแพทย์และได้รับการอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (FDA)เพื่อการรักษาโรคอ้วนในระยะยาว
ยาเหล่านี้รวมถึง:
- Belviq (lorcaserin)
- Contrave (naltrexone / bupropion)
- Qsymia (phentermine / topiramate)
- Xenical (orlistat)>> มีผลิตภัณฑ์ที่มีปริมาณสารสำคัญน้อยลงและวางขายในร้านขายยาที่เรียกว่า Alli Xenical ได้รับการรับรองให้ใช้ได้ในวัยรุ่นและผู้ใหญ่ ยาอีกสามตัวข้างต้นอนุญาตให้ใช้ในผู้ใหญ่เท่านั้น ยาแต่ละชนิดจะทำงานแตกต่างกันและมีผลข้างเคียงที่แตกต่างกัน การเลือกที่จะลองตัวไหนเป็นการตัดสินใจของแพทย์เท่านั้น น้ำหนักเฉลี่ยที่ลดลงจากการใช้ยาข้างต้นอยู่ในช่วง 3-9%ของน้ำหนักตัว มีการศึกษาพบว่าการใช้ Qsymia จะทำให้น้ำหนักลดลงมากกว่าตัวอื่น ๆ โดยทั่วไป การใช้ยาลดน้ำหนักต้องใช้พร้อมกับอาหารที่มีแคลอรี่ต่ำและมีการออกกำลังกายที่เพิ่มขึ้น และผลของยาจะหยุดลงเมื่อหยุดยา ยาลดน้ำหนักบางตัวได้รับการอนุมัติให้ใช้ในระยะสั้น และประโยชน์ของยาจะมีจำกัด เนื่องจากคนส่วนใหญ่จะกลับมามีน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นเมื่อหยุดยา
การผ่าตัดรักษาโรคอ้วน(Obesity Surgery)
การผ่าตัดเพื่อลดน้ำหนักเรียกว่า bariatric surgery มักให้ผลการลดน้ำหนักมากกว่าการกินยาอย่างมีนัยสำคัญ แต่ผลลัพธ์นี้จะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล
การผ่าตัดจะมีหลายรูปแบบ เช่น:
Roux-en-Y gastric bypass: เป็นการผ่าตัดบายพาสกระเพาะอาหารที่พบมากที่สุด ขนาดของกระเพาะอาหารจะถูกทำให้ลดลงขนาดเท่าลูกวอลนัทและ และเชื่อมต่อส่วนตรงกลางของลำไส้ให้ติดกับกระเพาะอาหาร เป็นการจำกัดปริมาณอาหารที่คุณกินและลดปริมาณสารอาหารที่จะถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย
Laparoscopic adjustable gastric banding : ขั้นตอนนี้เป็นการนำห่วงรัดที่ปรับได้ไปรัดกระเพาะอาหารส่วนบนเพื่อลดปริมาณการทานอาหารต่อครั้งลง จะแบ่งกระเพาะอาหารออกเป็นช่องบนขนาดเล็กและช่องล่างที่มีขนาดใหญ่กว่า กระเปาะกระเพาะอาหารนี้จะจำกัดปริมาณอาหารที่คุณสามารถกินได้ในแต่ละครั้ง ห่วงรัดนี้สามารถปรับเพื่อลดขนาดของกระเพาะอาหารส่วนบนในคราวต่อไปได้
Sleeve gastrectomy : เป็นการผ่าตัดชนิดใหม่ซึ่งประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ของกระเพาะอาหารจะถูกเอาออก จะทำให้มีกระเพาะอาหารเป็นหลอด ซึ่งสามารถจำกัดปริมาณอาหารที่คุณกินได้มากขึ้น
https://www.honestdocs.co/what-is-obesity/treatment-of-obesity
ย้อนกลับไปหน้าแรก
หน้าถัดไป
|