HOME | ABOUT ME |
---|
มือของคนเรานั้นไม่เพียงแต่มีหน้าที่จับต้องหรือหยิบของเท่านั้น ยังให้ความรู้สึกในการจับต้อง สัมผัส วัตถุต่างๆ ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นตาที่สามของร่างกาย สามารถจะบอกลักษณะ รูปร่างลักษณะได้โดยไม่ต้องใช้ตาดู แต่ถ้าความรู้สึกของมือเสียไปเนื่องจากอุบัติเหตุหรือสาเหตุใดก็ตาม จะทำให้ความสามารถในการทำงานของมือเสียไปด้วย
1.ต้องห้ามเลือดก่อน โดยเฉพาะถ้าเป็นการขาดที่มือ จะมีเลือดออกมากต้องใช้ผ้าสะอาด หรือผ้าก๊อซ จำนวนมาก ๆ ปิดแผล กดให้แน่นเพื่อห้ามเลือด
2.ตรวจสอบดูว่า มือที่ขาดนั้นขาดออกจากตัวผู้ป่วยหรือเปล่า ถ้าขาดออกไปเลยต้องมีการเก็บรักษาที่ถูกวิธี ถ้ายังมีเนื้อเยื่อบางส่วนติดกันอยู่ หลังจากห้ามเลือดแล้ว พยายามประคองให้ส่วนที่ขาดไม่ถูกดึงรั้งไปมา
3.เมื่อให้การปฐมพยาบาลในเบื้องต้นแล้ว ควรโทรศัพท์ตรวจสอบดูก่อน เพื่อขอคำปรึกษาว่า โรงพยาบาลนั้น ๆ มีแพทย์พร้อมจะทำการผ่าตัดได้หรือเปล่า เพื่อจะได้ไม่เสียเวลาย้ายโรงพยาบาลในภายหลัง
การเก็บรักษามือส่วนที่ขาด
“ควรใช้ถุงพลาสติกสะอาดสวมแล้วรัดปากถุงให้แน่น จากนั้นจุ่มทั้งถุงลงในน้ำที่มีน้ำแข็งอยู่ด้วย เพื่อควบคุมอุณหภูมิ ไม่ให้เย็นจนเกินไป (อุณหภูมิที่เหมาะสมคือ 4 องศาเซลเซียส)”
!!!ห้ามนำอวัยวะที่ขาดแช่ในน้ำแข็งที่ไม่มีน้ำปนเด็ดขาด เพราะเนื้อเยื่อจะเย็นจนกลายเป็นน้ำแข็ง จะทำให้เซลล์ตาย การเก็บรักษาวิธีนี้ จะทำให้มือ ทนการขาดเลือดได้ถึง 6-8 ชั่วโมง ก่อนผ่าตัด
แพทย์เฉพาะทางด้านการต่ออวัยวะหรือที่เรียกว่า จุลศัลยแพทย์ ( Micro Surgeon ) จะเป็นแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ ด้านการเชื่อมต่อ เส้นเลือด เส้นประสาทขนาดเล็ก ๆ ตั้งแต่ 0.6 มิลลิเมตร ขึ้นมาจนถึงเส้นเลือดขนาดใหญ่บริเวณ ต้นแขน ต้นขา ซึ่งแพทย์จะมีขั้นตอนการรักษาดังนี้
1.ประเมินสภาพผู้ป่วย ว่าเป็นการบาดเจ็บเฉพาะบริเวณอวัยวะที่ขาด หรือมีการบาดเจ็บของระบบร่างกายส่วนอื่นด้วย เช่น สมอง ช่องท้อง ทรวงอก การบาดเจ็บที่ไหนที่ต้องให้การรักษาด่วน เพื่อรักษาชีวิตไว้ก่อน แล้วจึงมาทำการรักษาอวัยวะที่ขาด หรือประเมินดูว่าผู้ป่วยจะสามารถทนการผ่าตัดเป็นเวลาหลาย ๆ ชั่วโมงได้หรือไม่
2.ประเมินสภาพอวัยวะที่ขาด ว่าเหมาะสมที่จะทำผ่าตัดต่อกลับเข้าไปใหม่หรือไม่ เช่น สภาพมือที่แหลกเหลว เนื่องจาก เครื่องบดเนื้อ หรือถูกปั่นจั่นทับ เป็นต้น การเก็บรักษาถูกต้องหรือไม่ ระยะเวลานานเท่าไรตั้งแต่เกิดเหตุจนมาพบแพทย์ โดยเฉพาะ ส่วนของแขน, ขา ซึ่งมีกล้ามเนื้อมาก ถ้าทิ้งไว้นานเกิน 6-8 ชั่วโมงแล้วนั้น พวกกล้ามเนื้อซึ่งเป็นเนื้อเยื่อที่ทนต่อการขาดเลือดมาเลี้ยงนาน ๆ ไม่ได้ จะเกิดการสลายตัวเกิดเป็นของเสียมากมาย หลังจากที่แพทย์ต่อเส้นเลือดแล้วของเสียเหล่านี้ จะทะลักเข้าสู่กระแสเลือด ในปริมาณที่มากจนก่อให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงมาก ซึ่งในบางครั้ง อาจทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตได้นอกจากนี้ความสกปรกอย่างมากของอวัยวะที่ขาดออกไปก็อาจทำให้มีการติดเชื้อที่รุนแรงได้เช่นกัน
3.การผ่าตัด ก็จะเริ่มดังนี้
3.1 ยึดกระดูกที่หักเข้าด้วยกัน ด้วยโลหะดาม
3.2 เย็บซ่อมแซมเส้นเลือดดำ , เส้นเลือดแดง , เส้นประสาท โดยใช้เทคนิคทางจุลศัลยกรรม โดยใช้กล้องจุลทรรศน์ กำลังขยายสูง ใช้เครื่องมือผ่าตัดที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ มีความละเอียดอ่อนมาก ใช้ไหมเย็บเส้นเลือดขนาดเล็ก ๆ เพื่อให้เลือดสามารถไหลไปเลี้ยงเนื้อเยื่อส่วนที่ขาดได้
3.3 เย็บซ่อมแซมเส้นเอ็น , กล้ามเนื้อ , เย็บตกแต่งบาดแผลที่ผิวหนัง ขั้นตอนจะทำอะไรก่อน-หลังนั้น แพทย์จะต้องพิจารณาความเร่งด่วน เป็นหลัก เช่น เนื้อเยื่อถ้าขาดเลือดมานานแล้ว หรือมาพบแพทย์ค่อนข้างช้า อาจต้องผ่าตัดต่อเส้นเลือดแดงเป็นอันดับแรก เพื่อให้เลือดไปเลี้ยงเนื้อเยื่อให้ได้ก่อน
3.4 หลังการผ่าตัดผู้ป่วยจะต้องนอนพักรักษาตัวในโรงพยาบาล จนแน่ใจว่าปลอดภัยแล้ว แพทย์จึงจะอนุญาตให้กลับไปพักฟื้นที่บ้านได้
อ้างอิง
*ศูนย์จุลศัลยกรรมมือและการปลูกเนื้อเยื่อ. [cited 2017 Nov 22]. Available from: http://chularat.com/service_detail.php?id=2&gid=3
*ความรู้ทั่วไปสำหรับประชาชนเกี่ยวกับการผ่าตัดต่ออวัยวะ. [cited 2017 Nov 22]. Available from: http://chularat.com/knowledge_detail.php?lang=th&id=3&gid=3