Treatments

Causes and Symptoms
 

 

Treatment
Treatment
  • การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ถูกสุขลักษณะ
  • การออกกำลังกายที่เหมาะสม และสม่ำเสมอ
  • หลีกเลี่ยงการใช้ยาที่มีผลกระตุ้นระบบประสาทเหล่านี้ จะทำให้อาการนอนไม่หลับของคุณดีขึ้น
  • สำหรับการใช้ยานอนหลับ ควรให้อยู่ดุลยพินิจและคำแนะนำของแพทย์
อาหารช่วยให้นอนหลับได้ดีขึ้น

คงมีคนจำนวนไม่น้อยที่เคยประสบกับภาวะนอนไม่หลับ ซึ่งไม่เพียงแต่จะทำให้ต้องใช้ความพยายามในการข่มตานอนมากขึ้นเท่านั้นแต่ยังอาจส่งผลให้รู้สึกไม่สดชื่นในเช้าวันถัดมา อย่างไรก็ตาม เราลองมาดู 8 อาหารดังต่อไปนี้ที่สามารถช่วยให้นอนหลับได้ดีขึ้น

  • ปลา - ปลาอุดมไปด้วยกรดอะมิโนอย่างสารทริปโตเฟน (Tryptophan) โดยมีส่วนช่วยในการเพิ่มระดับของสารเซโรโทนิน (Serotonin) ซึ่งเป็นสารที่จำเป็นสำหรับการสร้างฮอร์โมนเมลาโทนิน (Melatonin) โดยจะช่วยในการควบคุมวงจรการนอนหลับและตื่นนอน นอกจากนี้ปลาส่วนมากไม่ว่าจะเป็นปลาแซลมอน ปลาทูน่า ปลาเทราต์ ปลากะพง ฯลฯ ยังอุดมไปด้วยวิตามินบี 6 ซึ่งถือว่าเป็นอีกหนึ่งสารอาหารที่จำเป็นสำหรับการสร้างฮอร์โมนเมลาโทนิน อย่างไรก็ตามมีผลการศึกษาหนึ่งพบว่า เมื่อให้ผู้ที่เข้าการทดสอบทานอาหารที่มีสารทริปโตเฟนสูง ผลปรากฏว่ากลุ่มคนดังกล่าวนอนหลับได้ดีขึ้น อีกทั้งยังรู้สึกสดชื่นและไม่ง่วงนอนในตอนเช้า
  • ผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจากนม - นอกจากการดื่มนมจะช่วยให้นอนหลับสบายขึ้นแล้ว ผลิตภัณฑ์ที่ผลิตมาจากนม ไม่ว่าจะเป็นโยเกิร์ตหรือชีสก็ยังอุดมไปด้วยแคลเซียมซึ่งมีส่วนช่วยในการผลิตฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับการนอนหลับอย่างเมลาโทนิน นอกจากนี้ยังมีหลายผลการศึกษาพบว่า การที่ร่างกายได้รับแคลเซียมไม่เพียงพอจะส่งผลให้การนอนหลับเป็นไปได้ยากขึ้น
  • เชอร์รี - เชอร์รีเป็นหนึ่งในอาหารเพียงไม่กี่ชนิดที่มีสารเมลาโทนินซึ่งจะช่วยกล่อมให้นอนหลับได้ อย่างไรก็ดีมีผลการศึกษาหนึ่งพบว่า เมื่อให้ผู้เข้าร่วมทดสอบดื่มน้ำเชอร์รีด้วยปริมาณ 8 ออนซ์ในตอนเช้าและตอนกลางคืนเป็นระยะเวลาสองสัปดาห์ ผลปรากฏว่า พฤติกรรมการนอนของกลุ่มคนดังกล่าวดีขึ้น
  • กล้วย - นอกจากกล้วยจะมีรสชาติที่อร่อยและหาทานง่ายแล้ว ก็ยังเป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยธาตุแมกนีเซียมและโพแทสเซียมซึ่งล้วนแต่เป็นแร่ธาตุที่ช่วยคลายกล้ามเนื้อ ทั้งนี้การที่ร่างกายไม่ได้รับธาตุแมกนีเซียมอย่างเพียงพอจะนำไปสู่การเกิดอาการขาอยู่ไม่สุข (Restless leg syndrome) ซึ่งผู้ป่วยจะรู้สึกไม่สบายที่ขาทั้ง 2 ข้าง ส่งผลให้นอนหลับได้ไม่ดีเท่าที่ควร นอกจากนี้กล้วยยังมีสารทริปโตเฟนซึ่งเป็นสารอาหารที่เกี่ยวข้องกับการนอนหลับ
  • ถั่ว - ถั่วเป็นอาหารขบเคี้ยวที่อุดมไปด้วยแคลเซียมและแมกนีเซียมซึ่งเป็นแร่ธาตุที่ช่วยในการนอนหลับ อีกทั้งยังมีกรดไขมันไม่อิ่มตัวที่สามารถช่วยควบคุมระดับสารเซราโทนินซึ่งเป็นสารตั้งต้นในการผลิตฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับการนอนอย่างเมลาโทนิน ยิ่งไปกว่านั้นโปรตีนในถั่วยังช่วยรักษาระดับของน้ำตาลในเลือดให้คงที่ ส่งผลให้นอนหลับได้ดี
  • ฮัมมัส (Hummus) - ฮัมมัสเป็นอาหารประเภทใช้จิ้มหรือทาอาหารชนิดอื่นๆ โดยมีส่วนประกอบหลักเป็นถั่วลูกไก่ซึ่งไม่เพียงแต่มีสารทริปโตเฟนสูงเท่านั้น แต่ยังอุดมไปด้วยสารโฟเลตและวิตามินบี 6 ที่สามารถช่วยในการนอนหลับ ซึ่งโฟเลตจะช่วยควบคุมการนอน โดยเฉพาะในวัยสูงอายุ ในขณะที่วิตามินบี 6 จะมีส่วนในการควบคุมนาฬิกาชีวิตในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการนอน
  • ผักใบเขียวเข้ม - ผักใบเขียวเข้มอย่างผักโขม ผักเคล ผักสวิสชาร์ด ฯลฯ ล้วนแต่อุดมไปด้วยธาตุโพแทสเซียม แมกนีเซียมและแคลเซียม ซึ่งธาตุทั้งสามมีบทบาทสำคัญในการช่วยให้คุณนอนหลับ โดยแคลเซียมจะช่วยให้ร่างกายผลิตฮอร์โมนเมลาโทนินซึ่งเป็นฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับการนอนหลับ ส่วนโพแทสเซียมกับแมกนีเซียมจะเป็นแร่ธาตุที่ช่วยให้กล้ามเนื้อที่กำลังตึงผ่อนคลายลงได้ ส่งผลให้คุณนอนหลับได้สบายขึ้น
  • ชา - หากคุณนอนไม่หลับ การดื่มชาคาโมมายล์หรือชาสะระแหน่ร้อนๆสักหนึ่งแก้วก่อนนอนจะช่วยกล่อมให้คุณนอนหลับได้ เนื่องจากชาสมุนไพรดังกล่าวไม่เพียงแต่ปลอดสารคาเฟอีนเท่านั้น แต่ยังอุดมไปด้วยสารธีอะนีน (Theanine) ซึ่งเป็นกรดอะมิโนที่สามารถช่วยลดความเครียดและทำให้รู้สึกผ่อนคลาย ส่งผลให้คุณรู้สึกง่วงนอน

จะเห็นได้ว่าอาหารนับว่าเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่สามารถส่งผลต่อการนอนของคุณได้ ดังนั้นหากคุณลองสำรวจตนเองแล้วพบว่าในช่วงนี้คุณต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการข่มตานอน คุณก็อาจลองทานอาหารตามที่กล่าวไปข้างต้นเพื่อเป็นตัวช่วยในการกล่อมให้คุณนอนหลับ ปัจจุบันยังไม่มีวิธีการรักษาที่เฉพาะเจาะจงวิธีใดวิธีหนึ่ง สำหรับโรคนอนไม่หลับ การรักษาจะมีความแตกต่างกันไป โดยต้องสอบถามและค้นหาสาเหตุด้วย เพื่อการรักษาที่มีประสิทธิภาพ

Top

แหล่งอ้างอิง - https://www.honestdocs.co/insomnia-psychiatric-disorders-sleep-deprivation