การคัดกรองเพื่อป้องกันการติดเชื้อจากพี่เลี้ยงดูแลเด็กโดยทั่วไป มีแนวทางปฏิบัติดังต่อไปนี้ 1.ตรวจร่างกายโดยแพทย์ สามารถคัดกรองโรคติดต่อเบื้องต้นได้ เช่น ตรวจพบภาวะตาเหลือง ตัวเหลือง ดีซ่าน พบใน โรคตับอักเสบ หรือผื่นผิวหนังอักเสบต่างๆ รวมถึงโรคหิด เหา 2.ตรวจคัดกรองภาวะตับอักเสบจากเชื้อไวรัสทั้งไวรัสตับอักเสบเอและบี เนื่องจากไวรัสตับอักเสบเอ ติดต่อโดยการรับประทานอาหารร่วมกัน หรือสุขอนามัยไม่สะอาด ส่วนไวรัสตับอักเสบบีติดต่อโดยเลือดและสารคัดหลั่ง ควรส่งตรวจ anti-HAV IgM, anti-HBc และ HBs Ag 3.ตรวจอุจจาระและเพาะเชื้อ เพื่อตรวจคัดกรองเชื้อ Salmonella typhi ที่พบได้บ่อยในพี่เลี้ยงจากอินเดียและบังกลาเทศและเชื้อ non-typhoidal Salmonella ที่พบได้จากผู้ที่เป็นพาหะโรค รวมถึงตรวจคัดกรองพยาธิลำไส้ด้วย โดยส่งตรวจอุจจาระดูพยาธิและการเพาะเชื้อจากอุจจาระ 4.ตรวจคัดกรองภาวะติดเชื้อวัณโรค โดยตรวจเอกซเรย์ปอดเบื้องต้น และพิจารณาทำการทดสอบทุเบอร์คุลิน (tuberculin test) เพื่อแสดงว่าเคยมีการติดเชื้อวัณโรคหรือไม่ แต่ไม่สามารถบ่งชี้ว่ากำลังป่วยเป็นวัณโรคระยะลุกลาม 5.ตรวจคัดกรองภาวะติดเชื้อเอชไอวี เนื่องจากการติดเชื้อเอชไอวีในระยะแรกที่ภูมิคุ้มกันปกติ ยังไม่แสดงอาการใด โดยส่งตรวจ anti-HIV การสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคติดต่อด้วยวัคซีนแก่พี่เลี้ยงดูแลเด็กเป็นอีกวิธีที่มีประสิทธิภาพในการลดการแพร่กระจายโรคไปสู่เด็กได้ แม้ว่าในปัจจุบันยังไม่มีข้อกำหนดที่ชัดเจนสำหรับการให้วัคซีนในพี่เลี้ยงดูแลเด็ก ข้อมูลการศึกษาสนับสนุนการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันแก่ผู้ดูแลเด็ก โดยเฉพาะวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่และวัคซีนป้องกันโรคไอกรน |